ในตลาดการเงิน ทุกสิ่งมีราคาซื้อขาย ราคา Bid (ซื้อ) และ Ask (ขาย) คือราคาที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้ตกลงทำการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน 

หรืออธิบายแบบง่ายๆ ว่า “bid” และ “ask” เป็นราคาที่ดีที่สุดที่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถซื้อหรือขายสินทรัพย์ทางการเงินได้ในขณะนั้น 

บทความโดยสรุป:

  • Bid เป็นราคาที่ผู้ซื้อต้องการที่จะจ่ายเพื่อซื้อสินทรัพย์ ส่วน Ask เป็นราคาที่ผู้ขายต้องการจะขายสินทรัพย์
  • ราคาทั้ง 2 ประเภทนี้จะแปรผันตามอุปสงค์และอุปทานของสินทรัพย์นั้น
  • ส่วนต่างระหว่างราคา bid-ask จะเรียกว่าค่าสเปรด
  • โดยปกติแล้ว ราคา Bid จะต่ำกว่าราคา Ask เสมอ

อะไรคือราคา bid (ซื้อ)?

bid คือจำนวนเงินที่เทรดเดอร์ยินดีที่จะจ่ายสำหรับการซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน ตัวอย่างเช่น ราคา bid สำหรับ EUR/USD อยู่ที่ 1.1356 ซึ่งราคานี้เรียกว่าราคา quoted price หรือราคาที่คุณจ่ายสำหรับการซื้อเงิน 1 EUR โดยใช้เงิน USD; หรือพูดอีกอย่างว่าเงิน 1 EUR มีราคาเท่ากับ 1.1356 USD 

นี่คือ “ราคาขาย” ที่เทรดเดอร์ตกลงที่จะจ่าย – เป็นราคาสูงสุดที่ทุกคนยินดีจ่ายเพื่อซื้อเงิน EUR ในชั่วระยะเวลาหนึ่งๆ

อะไรคือราคา ask (ขาย)?

ราคา ask เป็นราคาของสินทรัพย์ทางการเงินที่ขายอยู่บนตลาด หรือคิดได้อีกอย่างว่าเป็นราคาขายปลีกของสินทรัพย์ ซึ่งก็คือราคาที่ผู้ขายเรียกร้องสำหรับการขายสินทรัพย์

เกิดอะไรขึ้นเมื่อราคา bid และ ask อยู่เท่ากัน?

โดยปกติแล้ว ราคา ask จะอยู่สูงกว่าราคา bid เหตุผลก็คือ – สมมุติว่ามีร้านค้าซื้อนมมา 1 ถัง ในราคาต้นทุนที่ 5 USD และร้านค้าก็ต้องการกำไร ดังนั้นร้านค้าจะไม่ขายนมออกไปในราคาทุนที่ 5 USD แน่นอน

แต่ก็มีบางกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก เช่น crossed market ที่ราคา bid จะขึ้นไปอยู่สูงกว่าราคา ask หรือราคา bid และ ask อยู่เท่ากันพอดี ซึ่งโดยปกติแล้ว ภาวะแบบนี้จะคงอยู่เพียงระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากผู้เล่นในตลาดจะรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ทันที

ความแตกต่างระหว่าง bid vs ask

ราคา bid และ ask จะเปลี่ยนแปลงไปตามแรงจากอุปสงค์และอุปทาน ในเวลาที่อุปสงค์หรือความต้องการมีสูง จะผู้เล่นในตลาดต้องการซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวมากขึ้นว่าปกติ ส่งผลให้ราคา bid และ ask พุ่งทะยานสูงขึ้น และสินทรัพย์ดังกล่าวมีราคาแพงขึ้น

และเช่นเดียวกัน ในกรณีที่อุปทานหรือความต้องการขายสินทรัพย์มีสูงกว่าคนที่ต้องการซื้อ ราคา bid และ ask จะเริ่มปรับตัวลดลง 

สเปรดระหว่าง bid และ ask

ส่วนต่างระหว่างราคา bid และ ask เรียกว่าสเปรด โดยค่าสเปรดนี้เป็นส่วนที่โบรกเกอร์ และ market makers ใช้ทำกำไรจากตลาด 

ค่าสเปรดและสภาพคล่องของสินทรัพย์มีความสัมพันธ์ที่แปรผกผันกัน เช่น เมื่อราคา bid-ask มีค่าสเปรดที่ต่ำ  นั่นหมายความว่าสินทรัพย์ดังกล่าวมีสภาพคล่องที่สูง และสามารถซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ง่าย ยิ่งค่าสเปรดต่ำเท่าไหร่ คุณก็จะมีต้นทุนการซื้อขายที่ต่ำเท่านั้น ในทางกลับกัน ยิ่งค่าสเปรดสูงเท่าไหร่ แปลว่าสินทรัพย์นั้นมีสภาพคล่องที่ต่ำเท่านั้น

ไม่ว่าคุณจะทำการซื้อหรือขายสินทรัพย์ คุณควรตั้งเป้าไว้ว่าจะทำการซื้อหรือขายในราคาที่ดีที่สุด ในฐานะเทรดเดอร์ คุณควรจะกดต้นทุนการซื้อขายของคุณให้อยู่ต่ำที่สุด และทำทุกอย่างให้แน่ใจว่า คุณไม่ได้ซื้อสินทรัพย์มาในราคาที่แพงจนเกินไป